สูตรแทงทบ เดินเงินแบบมาติงเกล ใช้เอาทุนคืนกลับมาได้ในรอบเดียว

สูตรแทงทบ

วันนี้มาดูเรื่อง สูตรมาติงเกล ที่ใช้แทงทบในการเล่นบาคาร่าออนไลน์ เชื่อว่านักพนันหลายคนย่อมมีสูตรการเล่นในดวงใจอยู่แล้ว สูตรไหนที่คิดว่าดีท่านก็จะยึดถือสูตรนั้นไว้เป็นแนวทางในการเล่นเพื่อทำกำไรได้ง่ายขึ้น สูตรในวันนี้ที่เราจะมาแนะนำ คือ สูตรมาร์ติงเกล หรือสูตรแทงทบ นั่นเอง ไปดูกันว่าสูตรนี้มีวิธีการเดินเกมอย่างไร และมันช่วยให้ได้กำไรมากขึ้นจริงหรือไม่ ติดตามไปพร้อมกัน

สูตรมาติงเกล (Martingale) คือ เทคนิคการบริหารเงินเดิมพันของท่านให้สามารถทำกำไรได้งอกงามตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยจะเน้นไปในทางเกมรับเสียมากกว่า เพราะเทคนิคนี้จะใช้เวลาที่เสียเงินเดิมพันไป แล้วต้องการนำทุนที่เสียไปกลับคืนมาภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด โดยใช้จำนวนตาน้อยที่สุด แต่การใช้สูตร Martingale ท่านจะต้องมีทุนที่หนาพอสมควร เพราะการเดินเกมลักษณะนี้จะใช้ทุนเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่าของเงินที่เสียไปให้ได้กลับคืนมา ถ้าท่านไม่มีทุนที่หนาพอก็ไม่สามารถใช้ได้ ที่สำคัญการแทงทบด้วยสูตร Martingale จัดว่ามีความเสี่ยงสูงมาก ถ้าหากประมาท พลาดไปโดยไม่ยั้งคิดก็อาจทำให้หมดเนื้อหมดตัวได้ วิธีการเดินเกมให้ใช้ประกอบกับการอ่านเค้าไพ่บาคาร่าอย่างละเอียด พร้อมกับวางเดิมพันอย่างง่าย ๆ คือ

  • แทงตาแรก 100 บาท – เสีย (รวมเสีย -100)
  • แทงตาที่สอง 200 บาท – เสียอีก (รวมเสีย -300)
  • แทงตาที่สาม 400 บาท – ได้ (รวม +100)
  • แทงตาที่สี่ 100 บาท – เสีย (รวม +0 )
  • แทงตาที่ห้า 200 บาท – ได้ (รวม +200 )
  • แทงตาที่หก 100 บาท – ได้ (รวม +300 )

ข้อควรระวังของ สูตรมาติงเกล

มีเรื่องที่ผู้เล่นต้องระวังเมื่อตัดสินใจที่จะใช้สูตรนี้

การจำกัดเงินเดิมพันแต่ละโต๊ะ

ถ้าหากท่านสังเกตุจะพบว่าในแต่ละโต๊ะบาการาก็จะมีให้เลือกช่วงเดิมพันว่าเราจะแทงกี่บาทถึงกี่บาท สาเหตุที่ทางคาสิโนต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าถ้ามีคนใช้สูตรแทงทบกันหลายคนรับรองว่าเจ๊งกันพอดี จึงต้องกำหนดช่วงเอาไว้

ถูก 3 ตาติด ทิ้งช่วงไว้ก่อน

ถ้าท่านชนะติดต่อกัน 4-5 ตา แต่พอมาตาที่ 6 กลับเพลี่ยงพล้ำทำให้กำไรที่ได้มาสูญเสียหมด เราไม่อยากให้เกิดขึ้นแบบนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน ถ้าชนะ 3 ตาติดกันแล้ว ให้พักคอยก่อน ทิ้งช่วงไว้สักแปปนึงแล้วค่อยกลับมาแทงไม้ต่อไป ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้ระบบจดจำยูสเซอร์ของเราไว้

ใช้เงินเย็น ลงเล่นเดิมพันเท่านั้น

เงินเย็นคือเงินที่ท่านมีอยู่แต่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้ (ถ้าไม่มีเงินก้อนนี้ ก็ไม่กระทบชีวิตความเป็นอยู่ของท่าน) เงินทุนที่นำมาเล่นจะต้องเป็นเงินที่ถูกแบ่งสรรปันส่วนไว้เรียบร้อยแล้ว ห้ามนำเงินที่มีผลต่อชีวิตประจำวันมาใช้เป็นอันขาด

สูตรมาติงเกลเหมาะกับใคร

สูตรการแทงทบ หรือ สูตรมาติงเกล เป็นวิธีการเดินเกมที่อาจไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะท่านต้องแบกรับความเสี่ยงสูง จำกัดด้วยทุนการเล่น จึงทำให้สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่มีประสบการณ์สูงแล้ว แต่ถ้าหากท่านนำสูตรนี้ไปใช้เพียงชนะเดิมพันแค่ตาเดียวก็อาจเรียกทุนกลับมาเหมือนดังเดิมได้ปกติ ซึ่งเราแนะนำให้ท่านดูตารางเดินเงินบาคาร่าจากเซียนไพ่เพิ่มเติมกันได้

Super มาติงเกล

Super มาติงเกล

ยังมีอีกหนึ่งสูตรที่มีชื่อเรียกคล้ายกันนั่นคือ สูตร Super martingale ซึ่งอาจจะสงสัยแล้วว่าสูตรนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างจากรูปแบบของสูตรเดิมมากน้อยแค่ไหน และมีวิธีการใช้อย่างไรบ้างเราจะมาทำความรู้จักกัน 

การใช้งานตารางเดินเงิน Super มาติงเกล

สูตรบริหารเงินของผู้เล่นที่จะใช้นำมาลงเดิมพันในแต่ละตาว่าควรจะลงด้วยจำนวนเงินที่เท่าไหร่ มาก หรือน้อย และปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์อย่างไรบ้าง โดยสูตรนี้จะมีการพัฒนาเพิ่มเติมจากรูปแบบเดิมไปเล็กน้อย ซึ่งจะเป็นการเดิมพันให้เยอะขึ้น เพื่อให้ได้ผลกำไรที่มากกว่ารูปแบบของสูตรมาติงเกลแบบทั่วไป

หลักการใช้สูตร Super martingale

สำหรับเทคนิคการใช้ตารางเดินเงินบาคาร่า สูตร Super Martingale จะมีขั้นตอนที่ผู้เล่นจะต้องทำตามลำดับดังนี้ 

  1. ให้นักพนันลงเดิมพันครั้งละ จำนวน 1 หน่วย และเมื่อชนะตา ถัดไป ก็ให้ลง 1 หน่วยเช่นเดิม 
  2. หากทุกครั้งที่เล่นเสีย ให้นักพนันเพิ่มเงินเดิมพันในตาต่อไป เพิ่มเป็น 2 เท่า ของที่เสียในตาที่แล้ว เพื่อทำให้เมื่อชนะจะได้รับเงินที่เสียกลับมาพร้อมกับได้กำไร 1 เท่า 
  3. ขั้นตอนสองข้อข้างต้น จะเป็นสูตรมาร์ติ้งเกลแบบปกติ ซึ่งสำหรับซุปเปอร์มาร์ติ้งเกล จะมีขั้นตอนต่อจากตรงนี้ คือ ต้องเพิ่มเงินเดิมพันขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อหวังกำไรพิเศษเพิ่มมากขึ้นเมื่อชนะ และได้กำไรมากกว่า 1 หน่วย ซึ่งลำดับการเดิมพันในรูปแบบนี้ในตาที่ 1, 3, 7, 15, 31, 63, 127, 255, 511, 1023, 2047, 4095 เป็นต้น
ตารางเดินเงิน super มาติงเกล

จากตารางข้างต้น ที่แถวเดิมพัน แต่ละหน่วย คือ 1 หมายถึง 1 หน่วยบาท จะขออธิบายเพื่อให้เห็นภาพ ดังนี้

  • ลำดับตา 1 เดิมพัน 1 บาท หากชนะจะได้กำไรสะสม 1 บาท
  • ลำดับตา 2 เดิมพัน 1 บาท (ตามกฎของสูตร) หากชนะจะได้ 1 บาท รวมกำไรสะสมเป็น 2 บาท
  • ลำดับตา 3 เดิมพัน 1 บาท หากแพ้กำไรสะสมจะเหลือ 1 บาท
  • ลำดับตา 4 (สูตร Super Martingale ทำงาน) โดยจะต้องลงพนัน 3 บาท หากแพ้กำไรสะสมจะลดลงเป็น ขาดทุน 2 บาท
  • ลำดับตา 5 (สูตร Super Martingale ทำงาน) โดยจะต้องลงพนัน 7 บาท หากชนะจะได้กำไรจากขาดทุน 2 บาทในตาที่ 4 ทำให้ล่าสุดได้กำไร 5 บาท
  • ลำดับตา 6 ตามสูตร Super Martingale เนื่องจากตาที่ 5 ผลชนะ ตานี้เดิมพันที่ 1 บาท อีกครั้ง และวนต่อเรื่อยๆ

เมื่อนำสูตรซุปเปอร์มาร์ติ้งเกลมาเปรียบเทียบกับสูตรมาร์ติ้งเกลจะมีความแตกต่าง ได้ตามตารางเปรียบเทียบดังนี้

ตารางเปรียบเทียบการเดินเงิน

จะสังเกตได้ว่าสูตรนี้จะการันตีผลตอบแทนให้กับนักเดิมพันทุกๆ ตาที่ 1 หน่วย เสมอแม้ว่าจะเล่นเสียก็ตาม แต่ถ้าหากมีเงินสำรองที่หนาพอ เมื่อถึงตาที่ชนะก็จะได้เงินที่เสียกลับคืนทั้งหมด แถมยังได้กำไรเพิ่มขึ้นอีก 1 หน่วย x จำนวนตาที่เสีย เช่น หากแพ้ติด 5 ตา และชนะในตาที่ 6 ผู้เล่นจะได้เงินที่เสียกลับคืนมาทั้งหมด แถมได้กำไรเพิ่ม 1 หน่วย x 6 ตา = 6 หน่วย เลยทีเดียว ดังนั้นแนะนำว่าให้ลองนำไปใช้ดูก่อนและปรับตามวงเงินเดิมพันที่แต่ละคนสะดวกจะดีที่สุด

สูตร Winning martingale แทงทบเมื่อชนะ

สำหรับผู้เล่นทุนน้อย อาจต้องมาใช้กลยุทธ์ทางตรงกันข้าม ซึ่งจะคิดย้อนโดยที่เสี่ยงค่าเดิมพัน 1 หน่วยในแต่ละครั้ง และหวังกำไรจากการชนะติดกัน หลักการนี้เรียกว่า Winning มาติงเกล ที่ใช้ได้กับเกมพนันทุกชนิด ทีนี้จะมาดูกันว่าหลักการและขั้นตอนในการใช้สูตรนี้จะต้องทำอย่างไรกันบ้าง 

หลักการ ขั้นตอนสูตร Winning มาติงเกล

สำหรับ Winning มาติงเกล จะเป็นการที่ผู้เล่นจะต้องเดิมพันแค่ 1 หน่วยเท่านั้นซึ่งหน่วยนี้ผู้เล่นจะต้องกำหนดว่าจะให้มีมูลค่ากี่บาทจะเป็น 10 20 50 100 บาท ได้ทั้งหมดตามความเหมาะสม ซึ่งมีหลักการที่ต้องสะสมชนะทบไปเรื่อยๆ 2, 4, 8, 16, 32, 64 เป็นต้น เมื่อเดิมพัน 1 หน่วยและชนะจะได้กำไรกลับมาในหน่วยรวมเป็น 2 หน่วยจากนั้นตาถัดไปก็จะต้องเดิมพัน 2 หน่วย หรือทบบวกกำไรที่ได้ในตาแรก ทุกครั้งที่ชนะให้เป็น 2 เท่าไปเรื่อยๆ นั่นเอง 

  • ตาที่ 1 เดิมพันฝั่งเจ้ามือ 1 หน่วย ผลชนะได้เงินกลับมา 2 หน่วย
  • ตาที่ 2 เดิมพันฝั่งเจ้ามือ 2 หน่วย  ผลชนะได้เงินกลับมา 4 หน่วย
  • ตาที่ 3 เดิมพันฝั่งเจ้ามือ 4 หน่วย  ผลชนะได้เงินกลับมา 8 หน่วย

จากนั้นในตาถัดไปจะถือว่ายากที่จะตัดสินใจ เพราะชนะติดกัน 3 รอบแล้ว ซึ่งจะต้องเลือกว่าจะแทงต่อเพื่อเอากำไรหรือหยุดเพื่อจบรอบและเริ่มแทงที่ 1 หน่วยใหม่อีกครั้ง ซึ่งหลักการต่อจากนี้จะขออธิบายต่อว่า นักพนันจะต้องตัดสินใจว่าจะต้องชนะติดกันกี่ตาถึงจะจบรอบ แล้วเอากำไรออกแล้วค่อยไปเริ่มแทงตาแรกที่ 1 หน่วยอีกครั้ง และต้องมั่นใจว่าถ้าไม่ชนะติดกันกี่ตาแล้วจะถือว่าไม่ชนะ ต้องชนะติดกันกี่ตาเท่านั้นถึงจะถือว่าชนะและเอากำไรออกมา โดยต้องกำหนดเองก่อนเล่นและทำตามที่ตั้งไว้เคร่งครัดโดยที่ไม่แหกกฎเท่านั้น

ยกตัวอย่าง ตั้งเกณฑ์ชนะ 4 ตาติด ถึงจะถือว่าชนะ

ตัวอย่างใช้สูตรเล่น 4 รอบ
ตารางข้างต้นเป็นการแสดงความเป็นไปได้ทั้งหมดว่าต้องชนะติดกัน 4 ครั้ง ถึงจะชนะและเริ่มตาที่ 1 ใหม่อีกครั้ง ที่ 1 หน่วย และทบไปเรื่อยๆ หากชนะ
ตัวอย่าง ตารางแทงทบชนะ

เมื่อชนะเดิมพันครบ 4 ครั้ง จะถือว่าชนะและจบรอบได้ ได้เงินทั้งหมด 16 หน่วย (กำไร 15 + ทุน 1 หน่วย)  และหากแพ้ตาไหนก็ตาม ก็จะถือว่าจบรอบเหมือนกันด้วยการแพ้เสีย 1 หน่วย  และหาจังหวะเข้าเล่นใหม่อีกครั้งโดยเริ่มที่เดิมพัน 1 หน่วย และทบเมื่อชนะเช่นเดิม

อย่างไรก็ตามสูตร Winning มาติงเกล จะต้องนำมาใช้กับเทคนิคการอ่านเค้าไพ่ จึงจะถือว่าใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะจะสามารถทราบด้วยว่าควรจะเดิมพันที่ฝั่งผู้เล่นหรือฝั่งเจ้ามือ ซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญด้วยเช่นกัน จึงขอแนะนำว่าให้ทำการศึกษาเทคนิคเค้าไพ่ให้ละเอียด และนำสูตรนี้ไปใช้อีกครั้งจะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น