วิธีเก็บเงิน วางแผน ออมเงิน ประหยัด ตามสไตล์มนุษย์เงินเดือน

การเก็บเงิน ออมเงิน เป็นเรื่องที่ใครหลายๆ คนตั้งใจจะทำเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางการเงิน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ขึ้นอยู่กับเราว่าได้ตั้งเป้าหมายทางการเงินเอาไว้อย่างไร บางคนแค่มีเพียงหลักแสนก็พึงพอใจแล้ว บางคนต้องการทำเงินล้าน ต้องการออมเพื่อสร้างธุรกิจ หรือเก็บไว้เป็นเงินบั้นปลายชีวิต เก็บไว้สำหรับสร้างครอบครัว ให้ลูกหลานไว้ใช้ แต่ไม่ว่าเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ของคุณจะเป็นอย่างไร ประเด็นจะอยู่ที่เราจะทำอย่างไรให้ถึงเป้าที่คาดหวังไว้ได้ มาดูว่ามีวิธีออมเงินสำหรับคนทำงานอย่างไรบ้างให้บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ

หา Fixed Cost ของตัวเอง

ผู้คนส่วนใหญ่ที่เริ่มต้นเก็บเงินมักจะมีมุมมองว่ายากเหลือเกิน ไม่มีความมั่นใจ หรือมอง ห็นหนทางว่ายากลำบากกว่าจะสามารถเก็บเงินได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ เริ่มต้นง่ายๆ เพียงแค่รู้จัก Fixed Cost หรือค่าใช้จ่ายประจำที่เราจะต้องจ่ายออกไปทุกๆ เดือน เรื่องนี้เป็นพื้นฐานเบสิคมากๆ สำหรับผู้เริ่มต้นเก็บเงินจำเป็นต้องรู้

สำหรับ Fixed Cost หรือรายจ่ายคงที่ จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องเสียประจำในทุกๆ เดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ค่าผ่อนสินเชื่อ ค่าที่พัก ค่าอาหาร เราจำเป็นต้องกันรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อเตรียมไว้สำหรับจ่ายค่าเหล่านี้ไว้ให้พร้อมทุกเดือน เพราะเงินในส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุดและต้องจ่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการเกิดหนี้ให้ได้มากที่สุด

แบ่งเงินออกเป็นสัดส่วนจะได้ใช้ถูก

การจัดสรรเงินเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไม่ได้ โดยปกติแล้วให้คุณสังเกตตัวเองว่าเมื่อได้รับเงินเดือน หรือรายได้ต่างๆ ได้มีการจัดสรรเงินที่ได้มานั้นในทันทีเลยหรือไม่ หรือมีการใช้จ่ายเงินออกไปก่อนโดยไม่ได้คำนึงถึงประเด็นนี้ หากยังเป็นแบบนี้อยู่แนะนำว่าให้ลองนำแนวทางการแบ่งเงิน จัดสรรเงินไปใช้สักระยะหนึ่งแล้วจะเห็นผลลัพธ์ที่ทำให้คุณใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีเงินเก็บแน่นอน

หลักการแบ่งเงินหรือจัดสรรเงินนั้นง่ายมากๆ เดี๋ยวนี้มีระบบตัดเงินในบัญชีอัตโนมัติไปสู่บัญชีต่างๆ ซึ่งสามารถออกแบบได้เป็นสัดส่วนตามความเหมาะสมได้เลย แนะนำว่าเงินจำนวนนี้ควรจะมีเงินออมอยู่ด้วยอย่างน้อย 10-30% ที่เหลืออาจจะแบ่งให้เป็นรายจ่ายประจำที่ 40% ส่วนที่เหลือให้เป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน 30% เป็นต้น วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่ต้องกังวลว่าจะเหลือเงินให้ใช้เท่าไร เพราะเราจัดสรรเงินไว้ล่วงหน้าแล้ว

ทำประกันชีวิตแทนการออมเงิน

การทำประกันเป็นการออมเงินอีกรูปแบบหนึ่ง คนส่วนใหญ่มักมองข้ามและรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องทำประกัน แต่แนะนำว่าควรศึกษาไว้บ้าง โดยเฉพาะประกันเน้นออมทรัพย์ นอกจากได้ความคุ้มครองกับชีวิตของผู้ทำประกันแล้ว ถือเป็นการเก็บเงิน ออมเงินไปด้วยในตัว หากเป็นมนุษย์เงินเดือนยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ได้ง่าย การทำประกันจึงมีความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

สำหรับผู้ที่มองว่าเริ่มทำงานและยังไม่มีเงินเก็บ ไม่มีเงินออม แนะนำว่าให้ศึกษาเรื่องทำประกันไปเลยก็ดี เพราะจะได้ผลตอบแทนแบบหลายเด้ง ได้ทั้งความคุ้มครอง ได้เป็นการออมเงินในตัว และยังได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีอีกด้วย เพราะหากทำประกันแบบออมทรัพย์ 10 ปีขึ้นไป สามารถนำค่าเบี้ยประกันใช้สำหรับลดหย่อนภาษีเงินได้ถึง 100,000 บาท ต่อปี

ประเภทของประกันชีวิต

1. แบบชั่วระยะเวลา เป็นแบบจ่ายเบี้ยต่ำได้ความคุ้มครองสูง บริษัทจะจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิตในระยะเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น เกินกว่านั้นจะไม่ได้รับเงินคืน
2. แบบตลอดชีพ จะเน้นความคุ้มครองเป็นหลัก ค่าเบี้ยจะไม่สูงมาก บริษัทจะจ่ายเงินให้ผู้รับประโยชน์ เมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิตหรือจ่ายให้ผู้ทำประกันเมื่อครบกำหนดสัญญา
3. แบบสะสมทรัพย์ เน้นการได้รับเงินก้อนคืน มากกว่าการรับความคุ้มครอง ค่าเบี้ยจะค่อนข้างสูง มีเงินปันผลให้ทุกปีตามกรมธรรม์
4. แบบบำนาญ จะเริ่มจ่ายเงินให้ผู้ทำประกันเมื่อผู้ทำประกันอายุถึงเกณฑ์ตามกำหนด ระยะเวลาจ่ายขึ้นอยู่กับจำนวนงวด หรืออายุของผู้ทำประกันในกรมธรรม์

ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและหาช่องทางเพิ่มรายได้

เมื่อรายได้ที่มีอาจไม่พอใช้ สิ่งที่ควรทำ คือ ให้บริหารค่าใช้จ่าย อะไรที่ลดได้ควรปรับลดลง ไม่ว่าจะเป็นค่ากิน ค่าอาหาร ลองเปลี่ยนมาใช้การทำกับข้าวเอง หรือห่อข้าวจากที่บ้านไปกิน ของกินจุกจิก หรือหากติดกาแฟก็ลองหาวิธีที่ช่วยให้ประหยัดลงบ้าง เช่น การชงกาแฟกินเอง หรือวิธีอื่นๆ ค่าเดินทางอาจใช้วิธีอื่นที่ประหยัดกว่าหากทำได้ เป็นต้น

การลดค่าใช้จ่ายเพียงด้านเดียวคงไม่พอ หากสามารถหาช่องทางเพิ่มรายได้ด้วยจะยิ่งดีขึ้นไปอีก ถ้ามีเวลาว่าง ลองหางานอดิเรกทำ หรือรู้ว่าตัวเราเองเป็นคนชอบอะไร สามารถต่อยอดสิ่งที่ชอบที่ทำเป็นงานอดิเรกให้สามารถสร้างเงินได้จะยิ่งดี เช่น การวาดภาพสติ๊กเกอร์ Line จำหน่าย ชอบการทำอาหาร ขายอาหารเดลิเวอรี่ นอกจากนี้ควรมีการวางแผนให้เงินสามารถสร้างเงินเพิ่มได้ด้วย

หารายได้เพิ่ม

ตั้งเป้าหมายการหารายได้เพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นครูสอนพิเศษ ทำอาหารขาย เป็นพนักงานเดลิเวอรี่ ทำงานพาร์ทไทม์ หรือขายของตามตลาดนัด มีช่องทางมากมายที่คุณสามารถใช้เวลาว่างสร้างรายได้ บางอย่างอาจมีต้นทุนเล็กน้อย หรือบางอย่างไม่ต้องมีต้นทุนก็ทำได้

ศึกษาเรื่องการลงทุน

การลงทุนก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เราควรให้เงินทำงานได้ด้วยตัวของมันเอง ลงทุนในหุ้นต่างๆ ได้ปันผล ดอกเบี้ย หรือมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น รวมถึงพันธบัตรรัฐบาล เพราะยุคนี้การฝากประจำกับธนาคารอาจไม่ใช่คำตอบที่ดี เพราะได้ผลตอบแทนที่ต่ำเกินไป