หากกล่าวถึงรถสปอร์ตหรู หนึ่งในชื่อที่ครองใจเศรษฐีหรือนักเสี่ยงโชค นักพนันทั่วโลก ต้องยกให้กับ Lamborghini แลมโบกินี่ สุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ที่นอกจากจะมีดีไซน์โฉบเฉี่ยวแล้ว ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่แรงจัดเต็ม พร้อมรูปแบบการใช้งานที่เอาใจเหล่าคนรักรถได้อย่างครบทุกฟังก์ชั่น แต่แน่นอนว่าเมื่อเอ่ยถึงชื่อรถสปอร์ตหรูเจ้านี้มูลค่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว มาดูกันว่ากระทิงดุดันเจ้าโลกตัวนี้จะมีรุ่นไหนซีรีส์ใดที่น่าจับตามองกันบ้าง
สารบัญเนื้อหา
แลมโบกินี่รุ่นยอดนิยมตลอดกาล
แน่นอนว่าแลมโบกินี่ราคาแพงหรือรุ่นลิมิเต็ดอาจไม่ใช่รุ่นที่มียอดขายดีที่สุด จากข้อจำกัดหลายประการด้วยกัน แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีรุ่นยอดนิยมที่สามารถทำยอดขายได้อย่างก้าวกระโดดต่อเนื่องในทุกๆ ปี จัดเป็นรถที่อยู่ในหมวดรุ่นยอดนิยมเลยก็ว่าได้ มาดูกันว่ารุ่นที่มียอดขายดีที่สุดและมีคนใช้งานมากที่สุดจะมีรุ่นอะไรบ้าง
Aventador
เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่สร้างชื่อตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในงาน Geneva Motor Show ปี 2011 สร้างยอดขายทั่วโลกไปแล้วถึง 8,000 คัน ถือเป็นรุ่นที่มีสมรรถนะสูง เครื่องยนต์ติดตั้งที่กลางลำด้านหลัง ขับเคลื่อนระบบ 4 ล้อแบบ All Wheel Drive พร้อม 2 ประตู 2 เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร กำลังถึง 770 แรงม้า อัตราเร่งที่ 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที ท็อปสปีดสูงสุดที่ 350 กม./ชม. มูลค่า 503,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 17 ล้านบาท (ราคาไม่รวมภาษี)
Urus
ถือเป็น Super SUV คันแรกของโลกสร้างขึ้นจากแนวคิดการผสมผสานระหว่างความเป็น Lamborghini และรถยนต์อเนกประสงค์ SUV เข้าด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการรถยนต์สมรรถนะสูงและสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ในเวลาเดียวกัน เครื่องยนต์ V8 เบนซิน 4.0 ลิตร กำลัง 659 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที คู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุด 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง โหมดขับขี่ 6 รูปแบบ พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานเพียบ มูลค่า 23.5 ล้านบาท
Huracan
เรียกว่าเป็นรุ่นที่มีทรงมาตรฐานและเป็นเอกลักษณ์ชัดเจนของแลมโบกินี่เลยทีเดียว ด้วยดีไซน์ทรงสปอร์ตขนาดกลาง มาพร้อมเครื่องยนต์ V10 ระบบคอมมอนเรลฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูงถึง 180 บาร์ กำลัง 610 แรงม้า 8,250 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม. มาพร้อมระบบ มาพร้อมระบบ Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata ขับเคลื่อนด้วยกำลังล้อทั้ง 4 ระบบอัจฉริยะรู้ทันทุกสถานการณ์ผ่านกียร์อัตโนมัติคลัตช์ถึงคู่ 7 สปีด พร้อมการบังคับเลี้ยวด้วยล้อหลัง สร้างความปลอดภัยเมื่อเข้าโค้ง มูลค่า 261,274 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 8.6 ล้านบาท
รุ่นลิมิเต็ดซีรีส์
ต้องยอมรับว่ายอดขายในปี 21 ของแลมโบกินี่สูงถึง 7,430 คัน แม้จะมียอดขายต่ำกว่าปี 20 ที่ 8,250 คัน แต่กลับมีกำไรมากกว่า เหตุผลเพราะมาจากการที่ได้ออกรุ่น Limited Series ที่มีการผลิตจำนวนน้อยแต่สามารถตั้งราคาสูงได้ และยังให้ผู้ซื้อสามารถออกแบบรถได้ด้วยตัวเอง ทั้งการเลือกเฉดสีมากถึง 348 เฉดสี การเพิ่มนวัตกรรมใหม่ของสีตัวถังที่เอาสีโปร่งแสงเข้ากับไมโครคริสตัลด้วยเทคนิคพิเศษทำให้ได้สีใหม่ที่มีเพียงคันเดียว รวมถึงการตกแต่งภายในรายละเอียดต่างๆ โลโก้บนเบาะนั่ง สร้างอักษรสลักลงบนห้องโดยสาร และฟังก์ชั่นพิเศษอีกมากมายที่สามารถปรับแต่งได้ ทำให้กลายเป็นรุ่นลิมิตเต็ดที่เพิ่มความน่าสนใจได้เป็นอย่างมากทีเดียว
Sesto Elemento
รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ที่เปิดตัวในงาน Paris Motor Show 2010 ชื่อรุ่นมีที่มาจากเลขอะตอมของเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ที่ถูกใช้ในการออกแบบตัวรถ และใช้วิศวกรรมยานยนต์ความเร็วร่วมกับการออกแบบให้รถมีน้ำหนักที่เบากับโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเพียงแค่ 999 KG เท่านั้น และด้วยเครื่องยนต์ V10 5.2 ลิตร 570 แรงม้า e-Gear 6 สปีด ส่งอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 2.5 วินาที และ 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 8.0 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 356 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มูลค่า 2,920,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 98 ล้านบาท
Diablo GTR
ถือเป็นรถรุ่นลิมิตแบบแรร์ไอเท็มของลัมโบร์กีนีเลยทีเดียว หลังจากเปิดตัวที่งานมอเตอร์โชว์ Geneva 1999 รูปลักษณ์ภายนอกที่มีความดุดัน เครื่องยนต์จัดเต็มกับ V12 ขนาด 6.0 ลิตร มาพร้อมด้วยกำลังถึง 590 แรงม้า และแรงบิดถึง 640 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วได้กว่า 339 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปัจจุบันรุ่นนี้มีเพียง 30 คันจากทั่วโลกเท่านั้น มูลค่า 310,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 10.4 ล้านบาท
Countach LPI 800-4
รถรุ่นที่ฉีกกฎการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีแบบไร้ที่ติ และยังนับว่าเป็นต้นแบบของรุ่นดังอย่าง Aventador และ Huracán อีกด้วย เป็นรุ่นที่ถือโอกาสครบรอบ 50 ปีของ Countach ด้านแลมโบกินี่จึงได้เปิดตัว Countach LPI 800-4 ให้เป็นรถรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ออกมาเพียง 112 คัน เท่านั้น เทคโนโลยีสุดล้ำกับเครื่องยนต์ V12 ทำงานพร้อมกับระบบไฮบริดมอเตอร์ไฟฟ้า 48V กำลังสูงสุดถึง 780 แรงม้าเครื่องยนต์ และ 34 แรงม้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า มูลค่า 2.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 94 ล้านบาท
รุ่นที่มีมูลค่าสูงสุด
ทุกปีรถของ Lamborghini ทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งรุ่นฮิต ยอดนิยม หรือเป็นรุ่นที่ถูกสั่งผลิตพิเศษในจำนวนจำกัด หรือผลิตตามออเดอร์ที่สั่งจองเท่านั้น แต่ก็ยังมีรุ่นมูลค่าสูงสุดของกระทิงใหญ่ที่จัดเต็มกับออฟชั่นหนักจัดเต็มที่เรียกว่าเป็นคันพิเศษสุดเลยก็ว่าได้ มาดูกันว่ารุ่นที่มูลค่าสูงที่สุดตลอดกาลของลัมโบร์กีนีคือรุ่นไหนและมีความโดดเด่นอย่างไร
Lamborghini Veneno
สำหรับรุ่น Veneno นับเป็นซูเปอร์คาร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีมาของค่ายกระทิงดุเลยก็ว่าได้ ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Geneva Motor Show 2013 จัดเป็นรุ่นพิเศษที่ทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของลัมโบร์กีนี จนปัจจุบันนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ติด 1 ใน 10 อันดับของรถที่มีราคาสูงที่สุดในโลก ในด้านของโครงสร้างของรถเป็นแบบโมโนค็อกที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ตัวถังภายนอกทำจากพลาสติกเกรดพรีเมี่ยมพร้อมเสริมความแข็งแรงกับคาร์บอรไฟเบอร์อีกหนึ่งขั้นในรูปแบบของโมโนค็อก และเบาะหนังน้ำหนักเบาคาร์บอนสกิน ในด้านเครื่องยนต์ V12 ความจุที่ 6.5 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 740 แรงม้า อัตราเร่งได้ถึง 96 กม./ชม. ได้ภายใน 2.9 วินาทีเท่านั้น ปัจจุบันมีเพียง 14 คันเท่านั้น มูลค่า 4.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 150 ล้านบาท
หนทางสร้างรายได้หลักล้าน ให้คุณเป็นเจ้าของแลมโบกินี่
โอกาสง่ายๆ ให้คุณได้จับจองรถสปอร์ตแลมโบกินี่ ให้เป็นเจ้าของไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยการเดิมพันในโลกของคาสิโนออนไลน์ หนทางในการสร้างรายได้แบบพลิกชีวิต พร้อมให้คุณรวยแบบเศรษฐีไม่ใช่แค่ฝันอย่างแน่นอน การันตีด้วยเหล่านักเดิมพันมากมายที่สามารถทำกำไรจากบาคาร่าออนไลน์ พร้อมเปิดโอกาสให้คุณได้ร่วมสนุกง่ายๆ ด้วยขั้นต่ำที่ทุนน้อยก็เริ่มเล่นได้ และบริการสุดพิเศษกับโต๊ะ VIP ที่จัดเต็มเฉพาะคนพิเศษอย่างคุณ ทำกำไรหลักล้านเราก็จ่ายเคลียร์ทุกบิล มาตรฐาน ปลอดภัย 100% ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
