คณิตศาสตร์ประกันภัย ความเหมือนของระบบแนวคิด ที่ใช้เดิมพันได้จริง

คณิตศาสตร์ประกันภัย มาร์ติงเกล martingale เดิมพัน ลงทุน

หลายคนอาจจะคิดว่า ทฤษฎีมาร์ติงเกล จะมีอยู่แค่เพียงในการเล่นพนัน เกมเดิมพัน หรือในวงการคาสิโนเท่านั้น แต่บอกเลยว่าหลักการนี้ยังไปคล้ายกับ หลักคณิตศาสตร์ประกันภัย อีกด้วย เป็นวิธีที่ทำให้ได้เปรียบ และป้องกันการแพ้เสียเงินทุนที่ลงทุนได้ทุกรูปแบบ มาเจาะลึกลงรายละเอียดกัน

ทฤษฎีมาร์ติงเกล คืออะไร

คณิตศาสตร์ประกันภัย มาร์ติงเกล martingale เดิมพัน ลงทุน

ทฤษฎีมาร์ติงเกล (Martingale) เป็นวิธีการแทงทบที่ใช้ความสัมพันธ์ของตัวเลข ในการจัดการเงินตลอดเวลาในการเดิมพัน หลักการของวิธีการนี้คือ การเพิ่มเงินพนันเป็นค่าคูณของเงินเดิมพันหลังจากที่แพ้ หรือเล่นเสีย โดยที่เป้าหมาย คือ การทบเพื่อดึงทุนที่เสียไปคืนมา และสร้างกำไรในเวลาเดียวกันในระยะยาว เช่น หากเราแทงเสมอ 100 บาท ในการเล่นเกมที่มีการจ่ายเงินรางวัล 1:1 และแพ้ในครั้งแรก ตามทฤษฎีมาร์ติงเกลเราจะเพิ่มเงินพนันเป็น 200 บาท ในรอบต่อไป หากเราแพ้อีกครั้งก็ให้ทบเพิ่มเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น จำนวนเงินที่เราแทงเริ่มที่ 100 บาท ดังนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 200,400,800,1600… บาท เพิ่มไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะชนะ เมื่อนั้นจะได้ทุนคืนทั้งหมดเลยทันที พร้อมกำไร 1 เท่าด้วย

ตามหลักการแล้วถือว่ามีข้อดี เพราะมีโอกาสเอาเงินที่เสียคืนได้แน่นอนแต่ต้องเล่นเป็นระยะยาวเท่านั้น แปลว่า หากการทบเงินมากขึ้นเรื่อยๆ จะยิ่งมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะจะต้องวางเงินเดิมพันในจำนวนมากขึ้นแบบหลายเท่าตัว จนทำให้หน้าตัก หรือเงินลงทุนหมดทันที นอกจากนี้มาร์ติงเกลยังไม่สามารถใช้ได้กับเกมที่มีการจ่ายเงินรางวัลที่มีค่าต่างกันไป เช่น เกมสล็อต หรือเกมที่มีความเสี่ยงสูงกว่า เพราะการเพิ่มเงินพนันเป็นค่าคูณของเงินเดิมพันหลังจากที่แพ้ อาจทำให้เราเสียเงินได้มากกว่าที่คิดไว้

กฎเหล็ก ที่จะทำให้แทงตามทฤษฎีมาร์ติงเกลได้ผล

การแทงทบ ตามทฤษฎีมาร์ติงเกล เป็นอะไรที่มีความเสี่ยงสูง และอาจทำให้ผู้เล่นเสียเงินได้จนหมดตัวได้เลย ดังนั้นการวางแผนและคำนวณก่อนการเดิมพันทุกครั้งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากง เพื่อช่วยในการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการชนะ ซึ่งอาศัย 3 กฎเหล็กสำคัญดังนี้

กฎเหล็กที่ 1 คำนวณโอกาสหรือสถิติของการทายได้ก่อนเดิมพันทุกครั้ง เพื่อให้ผู้เล่นทราบว่าโอกาสในการชนะเป็นเท่าไร และจะต้องเลือกทายตัวเลือกอื่นๆ ไว้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากแทงมาร์ติงเกลในเกมพนันไฮโล โอกาสที่จะชนะจึงมีค่าเท่ากับ 1/6 (เฉพาะตัวเลขต่อหนึ่งลูก) ต้องคำนวณคร่าวๆ ให้ได้แบบนี้ก่อนเล่นจริง เราจะได้รู้ว่ามีความเป็นไปได้และความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน

กฎเหล็กที่ 2 เป็นการคำนวณเงินหน้าตักว่ามีเงินเพียงพอที่จะเล่นได้กี่ครั้ง หรือถ้ามีเงินเพียงพอไม่จำกัดก็สามารถเล่นได้เรื่อยๆ เพราะทุนเยอะนั่นเอง แต่ผู้เล่นควรจะกำหนดวงเงินที่เหมาะสม สำหรับการเล่นทุกครั้ง และไม่ควรเล่นเกินวงเงินที่กำหนดไว้ เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงิน นอกจากนี้ให้ดู Bet ของเกมที่เล่นด้วย หลายเกมจะมีเพดานการวางเงินพนันสูงสุดไว้

กฎเหล็กที่ 3 การแทงทบมาร์ติงเกลสามารถหยุดเล่นเมื่อไรก็ได้ เมื่อได้รับเงินเพียงตามที่ต้องการแล้วก็สามารถเลือกหยุดเล่นได้เลย ไม่จำเป็นว่าจะต้องเล่นไปเรื่อยๆ เพื่อทบกำไรที่ได้มาอีก เพราะจะเสี่ยงมากจนเกินไป

ความเกี่ยวข้องกับ คณิตศาสตร์ประกันภัย ของเรื่องนี้

คณิตศาสตร์ประกันภัย มาร์ติงเกล martingale เดิมพัน ลงทุน

ในโลกของการประกอบธุรกิจ ถือว่ามีหลายกิจการที่ใช้วิธีที่คล้ายกับแนวทางตาม ทฤษฎีมาร์ติงเกล นี้ด้วย เพียงแต่ว่าจะไม่ได้เรียกชื่อนั้นนั่นเอง เป็นการใช้ คณิตศาสตร์ประกันภัย ในการออกแบบ ซึ่งการที่จะทำให้สำเร็จได้ต้องอาศัยกฎ 3 ข้อ คือ เมื่อกิจการเจ๊ง ก็ไปหาเงินมาลงทุนเพิ่มอีกเท่าตัวหนึ่ง เมื่อเจ๊งครั้งที่สองก็ลงทุนเพิ่มอีกเท่าตัว และทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งจะวิเคราะห์คาดการณ์จากการประเมินตามกฎเหล็กข้อที่ 1 และ 2 ในหัวข้อก่อนหน้านี้ ตามที่ได้กล่าวไปนั่นเอง

หากดูอดีตในหลายๆ กิจการจะเห็นว่าประวัติมาจากการกู้ หรือเงินยืมจากคนในตระกูลด้วย จนในสุดท้ายก็หาทางออกให้มีกิจการที่มีกำไรได้ในที่สุด จนกลายเป็นมหาเศรษฐี ถ้าเราอ่านประวัติของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายคนจะเห็นว่าหลายคนก็เคยเติบโตมาจากกฎ 3 ข้อนี้

อย่างไรก็ตาม กฎ 3 ข้อนี้ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับตลาดหุ้นได้อีกด้วย แต่ตลาดหุ้นไม่มีเงินลงทุนขั้นต่ำและขั้นสูงที่กำหนดไว้ แถมเราสามารถหยุดเล่นเมื่อไรก็ได้ ดังนั้นการบริหารและคำนวณการใช้เงินบนหน้าตัก จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ต้องตั้งเป้าหมายว่าจะลงทุนเท่าไร ในแต่ละครั้ง และเล่นเท่าไรเพื่อให้เหมาะสมกับเงินทุนที่มี แต่กฎข้อที่ยากที่สุดในการนำไปประยุกต์กับตลาดหุ้น คือ การคำนวณหาโอกาสความน่าจะเป็นทางสถิติว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงเท่าไร เพราะไม่ได้ตายตัวเหมือนกับการแทงไฮโลที่มีแต้มลูกเต๋าที่ชัดเจน

ประเมินความเสี่ยงทุกครั้งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

คณิตศาสตร์ประกันภัย มาร์ติงเกล martingale เดิมพัน ลงทุน

สุดท้ายไม่ว่าจะเป็น คณิตศาสตร์ประกันภัย หรือ มาร์ติงเกล การจะนำไปใช้ในรูปแบบไหน หรือการลงทุนแบบใด สิ่งที่ถือเป็นแนวทางเดียวกันชัดเจนที่สุด คือ การที่เราต้องรู้ความเสี่ยงของเราก่อนเสมอ ต้องรู้ว่าผลลัพธ์จะออกได้กี่หน้า และเราจะมีความเสี่ยงกี่เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นสัดส่วนเท่าไร เพื่อประเมินว่าเราสามารถผิดพลาดได้กี่ครั้ง ผิดพลาดได้ด้วยจำนวนเงินเท่าไร เพื่อให้เราเห็นภาพ เห็นจำนวนตัวเงินชัดเจน ไม่ใช่คิดอยากจะทบเงินก็กระโดดเข้าเล่น แบกเงินทุน มาทบเงินได้ตามอำเภอใจได้เลย