ตารางเดินเงินฮอลแลนด์ดิช สูตรทบเงิน การันตีทำกำไรไม่ขาดทุน

ตารางเดินเงินฮอลแลนด์ดิช

หนึ่งในกลยุทธ์การเดินเงินที่ถูกนำมาใช้เล่นในเกมพนันสุดฮิตมากที่สุดอย่าง รูเล็ต คือ รูปแบบการเดินเงินแบบ ฮอลแลนด์ดิช ซึ่งเป็นแนวทางที่มีความน่าสนใจมากทีเดียว เพราะเป็นระบบเดินเงินโปรเกรสซีฟเชิงบวกที่ทำงานได้แบบไม่ต้องเสี่ยงทบเงินเยอะๆ เหมือนอย่างระบบ มาร์ติงเกล เน้นการกระจายจำนวนรอบการแทงเงิน และต้องการชนะติดกันเพียง 2 รอบ เท่านั้น จะสามารถกู้เงินทบที่เสียคืนได้พร้อมกับกำไรทันที รูปแบบนี้เป็นยังไง ดีกว่ามาร์ติงเกลแบบไหน เรามาดูกัน

รูปแบบเดินเงินฮอลแลนด์ดิช คืออะไร

ระบบเดินเงินฮอลแลนด์ดิช

สำหรับ ตารางเดินเงินฮอลแลนด์ดิช (Hollandish System) เป็นรูปแบบที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในเกมพนันรูเล็ต ซึ่งการทำงานของมันออกแบบรอบการแทงเดิมพันแบบทบเงินได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเกมพนันชนิดอื่นๆ ได้ อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว ความพิเศษของสูตรนี้จะเป็นการทบเงินที่จะต้องแบ่งจำนวนรอบการเล่นเป็น 3 ครั้ง และแบ่ง Stage ในการทบเงินเพิ่มเมื่อแพ้ติดต่อกัน จะแตกต่างจากกลยุทธ์ทบเงินชนิดอื่นหรือมาร์ติงเกลที่ทบเพิ่มทันทีแบบต่อเนื่อง

นอกจากนี้ผู้ใช้จะต้องทำตามกฎเหล็กของสูตร คือ ในจำนวน 3 รอบ ที่ถูกแบ่งจากแต่ละ Stage จะต้องเดิมพันในฝั่งใดฝั่งหนึ่งเพียงฝั่งเดียวเท่านั้น เช่น แทงฝั่งสีแดงก็ต้องแทงฝั่งเดียวจนครบ 3 รอบ และจะต้องกำหนดเงินเริ่มต้นเดิมพันที่ 1 หน่วยก่อน และยังมีกฎเพิ่มเติมว่าให้เพิ่มเงิน 2 หน่วย ทุกสเตจที่แพ้ โดยการชนะตามระบบนี้จะต้องชนะมากกว่า 2 ใน 3 เท่านั้น หากแพ้ทั้งหมด หรือชนะเพียงรอบเดียว จะถือว่าแพ้ และจะต้องทบเงินเพิ่มเพื่อก้าวสู่สเตจต่อไป จนกว่าจะมีสเตจที่ชนะมากกว่า 2 ครั้ง ได้จะถือว่าชนะและจะให้กลับไปเริ่มที่ สเตจแรกที่ 1 หน่วยอีกครั้ง

การทำงานของระบบ Hollandish System

  1. กรณีเช่นกำหนด 1 หน่วย เท่ากับ 1 บาท จะได้สเตจการเล่น เท่ากับ 1 – 3 – 5 – 7 – 9 – 11 จะเห็นว่าระหว่างสเตจต้องเพิ่มเงิน = 2 บาท
  2. กรณีเช่นกำหนด 1 หน่วย เท่ากับ 2 บาท จะได้สเตจการเล่น เท่ากับ 2 – 6 – 10 – 14 – 18 – 22 จะเห็นว่าระหว่างสเตจต้องเพิ่มเงิน = 4 บาท
  3. กรณีเช่นกำหนด 1 หน่วย เท่ากับ 10 บาท จะได้สเตจการเล่น เท่ากับ 10 – 30 – 50 – 70 – 90 – 110 จะเห็นว่าระหว่างสเตจต้องเพิ่มเงิน = 10 บาท

สอนเล่นตามการเดินเงินฮอลแลนด์ดิช

Hollandish System

จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นว่าผู้ใช้สูตรจะต้องกำหนดจำนวนหน่วยเริมต้นในการเดิมพันไว้ก่อน จะให้ 1 หน่วยเท่ากับกี่บาท โดยที่ไม่จำเป็นต้องเท่ากับตัวอย่างก็ได้ จะกำหนดหน่วยละ 25, 50, 75 บาท หรือเท่าไรก็ได้ แต่จะต้องเพิ่มเงิน 2 หน่วย บวกด้วย 1 หน่วยเริ่มต้น ในสเตจถัดไปเมื่อแพ้ เช่น สเตจ 1 เล่น 50 บาท หากไม่สามารถชนะได้จาก 2 ใน 3 รอบขึ้นไป สเตจถัดไปต้องเพิ่มเงินเท่ากับ 50+50(2 หน่วยทบเพิ่ม) + 50 (1 หน่วยเริ่มต้น) = 150 บาท นั่นเอง

สำหรับรายละเอียดของแต่ละสเตจที่ผู้เล่นจะต้องทำ คือ ให้เดิมพันเล่นภายใน 3 รอบ ต่อ 1 สเตจ เท่านั้น โดยที่แต่ละรอบจะต้องใช้จำนวนเงินเท่ากัน เช่น 50 บาท ก็ต้องเล่น 50 บาท x3 รอบ และจะต้องเลือกฝั่งแทงสีใดสีหนึ่งเท่านั้น หากจะเปลี่ยนฝั่งแทงจะสามารถเปลี่ยนได้หลังจากเริ่มเล่นที่ Stage ถัดไป หรือเมื่อชนะสเตจแล้วเริ่มเล่นใหม่ เท่านั่น

ตัวอย่างขั้นตอนการใช้งานแบบละเอียด

  1. เริ่มต้นให้กำหนด 1 หน่วย เดิมพัน สมมติที่ 10 บาท
  2. จากนั้นให้เลือกฝั่งที่จะแทงใน 3 รอบ สมมติแทงฝั่งน้ำเงิน
  3. เมื่อเริ่มเกม ถือว่าเข้า Stage 1 วางเดิมพันรอบที่ 1-3 รอบละ 10 บาท รวม = 30 บาท
  4. สมมติผลออกมาเท่ากับ แพ้-ชนะ-แพ้ คือ ชนะ 1/3 ตามกฎจะถือว่าแพ้ ให้เข้าสู่ Stage 2 ในรอบถัดไป
  5. Stage 2 ให้เพิ่มเงิน 2 หน่วย + 1 หน่วยเริ่มต้น เท่ากับ (10+10)+10 = 30 บาท
  6. ดังนั้นรอบการเล่นที่ 1-3 ของ Stage 2 ต้องลงเงิน 30บาท/รอบ รวม = 90 บาท
  7. หาก Stage 2 ชนะเพียง 1/3 หรือไม่ชนะเลย จะถือว่าแพ้ และเข้าสู่ Stage 3 และทบเงินด้วยวิธีเดิม
  8. หากชนะที่ Stage ใดก็ตาม คือ ชนะ 2/3 หรือ 3/3 ถือว่าชนะตามสูตร และให้เริ่มต้นเล่นใหม่ที่ Stage 1 อีกครั้ง

เคล็ดลับเสริมช่วยเพิ่มความได้เปรียบให้เดินเงินฮอลแลนด์ดิช

ตารางดูเค้าไพ่

ความแตกต่างของตารางเดินเงินระบบนี้ที่ไม่เหมือนกับกลยุทธ์อื่นๆ คือ การกำหนดให้ต้องแทงเดิมพันฝั่งใดฝั่งหนึ่งเพียงฝั่งเดียวติดต่อกัน จนกว่าจะครบจำนวน Stage ที่ 3 รอบ ดังนั้นจุดนี้ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบอย่างดีเลยทีเดียวสำหรับการเล่นเกมไพ่ เช่น บาคาร่าออนไลน์ เสือมังกรออนไลน์ ที่สามารถอ่านเค้าไพ่ได้ และการที่ต้องแทงฝั่งเดียวติดกันก็มีเค้าไพ่หลายแบบที่สามารถนำมาใช้ได้อีกด้วย ใครที่อ่านเค้าไพ่เป็นจะได้เปรียบมากๆ สามารถนำมาใช้ควบคู่กันไปได้เลย

สำหรับเค้าไพ่ที่มักจะชนะติดกันฝั่งใดเพียงฝั่งเดียวอย่างเค้าไพ่หางมังกร ที่จะมาในรูปแบบการชนะติดกันสีเดียวยาวๆ หรือจะเป็น เค้าไพ่สลับสอง เค้าไพ่สองตัวตัด สามตัวตัด ก็สามารถนำมาใช้ได้ เพราะจะเข้าเงื่อนไขของ Hollandish ที่ชนะมากกว่า 2 ใน 3 ก็ถือว่าชนะทันทีนั่นเอง แต่หากผลเกมออกมาไม่เป็นไปตามเค้าไพ่ที่ว่ามานี้ก็เพียงแค่เข้าสู่ Stage ถัดไป แล้วรอดูจังหวะเค้าไพ่อีกครั้งว่าจะออกมาเป็นแบบไหนเท่านั้นเอง เพราะไม่ว่าจะแพ้ติดกันเสียเยอะไปแค่ไหน สูตรฮอลแลนด์ดิช จะการันตีคืนเงินที่ขาดทุนไปทั้งหมด พร้อมกำไรอีก 1 หน่วย เพียงแค่ชนะติดกันให้ได้ 2 ครั้ง

สรุปข้อดีและจุดเด่นของระบบเดินเงิน HLD

ตารางเดินเงินฮอลแลนด์ดิช

สรุปได้ว่าตารางเดินเงินฮอลแลนด์ดิช สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลย คือ ความได้เปรียบในการทบเงินอีกรูปแบบหนึ่ง มีการกระจายจำนวนเงินทุนของผู้เล่นให้สามารถเล่นได้หลายรอบมากยิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากสูตรทบเงินอย่างมาร์ติงเกลหรืออื่นๆ ที่มีการทบเงินเร็วจนเกินไป จนจำนวนเงินเพิ่มขึ้นสูงจากการเล่นเพียงไม่กี่รอบเท่านั้น ซึ่งมีความเสี่ยงมากหากผู้เล่นทุนไม่พอ ติดเพดานเงินทบหมดตัวได้

Hollandish เป็นตัวช่วยในการทบเงินแบบกระจายความเสี่ยง และยังการันตีทำกำไรโดยไม่ขาดทุนแน่นอน แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ตัวผู้เล่นจะต้องกำหนดหน่วยเดิมพันหนึ่งหน่วยให้พอดี ไม่มากจนเกินไป และจะต้องทำระบบ ทำตามกฎอย่างเคร่งครัด อย่าโลภหรือเสียสติใส่เงินเพิ่มหรือวิธีการอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากที่กฎได้กำหนดไว้ และหากผู้เล่นที่อ่านเค้าไพ่เป็นสามารถนำมาใช้ควบคู่กันได้เห็นผลดีและได้เปรียบมากทีเดียว

แชร์เรื่องนี้